ทศวรรษที่ 1

2518-2528
วางรากฐานธุรกิจอย่างมั่นคง
  • 2518 บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) (TNL) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2518 ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูป
  • 2526TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 6 ล้านบาท
  • 2527TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 12 ล้านบาท

ทศวรรษที่ 2

2529-2538
ร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ ก้าวไปข้างหน้า
  • 2530 TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 24 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2530
  • 2531TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 45 ล้านบาท และแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 10 บาท
  • 2532TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 60 ล้านบาท
  • 2537TNL แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด

ทศวรรษที่ 3

2539-2548
เผชิญหน้าวิกฤติ บททดสอบความแข็งแกร่งขององค์กร
  • 2539 TNL เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท เป็น 120 ล้านบาท
  • 2540เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศไทย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมาก ภาคธุรกิจรวมถึงบริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนรวมถึง ยอดขายสินค้าในประเทศและส่งออกลดลง แต่ TNL ก็สามารถผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาได้อย่างมั่นคง
  • 2542TNL ออกหุ้นกู้เป็นครั้งแรก จำนวน 300 ล้านบาท
  • 2546TNL แปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท

ทศวรรษที่ 4

2549-2558
ช่วงแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม
  • 2550 TNL ได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมประเภท Product
  • 2555TNL เปิดอาคารโรงงานหลังที่ 2 ที่สาขาลำพูน

ทศวรรษที่ 5

2559-2568
ทศวรรษที่ 5 ช่วงที่ 1 ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม
  • 2560 TNL ขยายฐานการผลิตสินค้าเครื่องหนัง ที่สาขาแม่สอด จังหวัดตาก
  • 2561TNL ขยายฐานการผลิตสินค้าเครื่องหนัง ที่สาขาลำพูน
  • 2564TNL สามารถรักษาเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้จากสถาบันการเงิน แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทศวรรษที่ 5

2565-2568
ทศวรรษที่ 5 ช่วงที่ 2 การเปลี่ยนแปลงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
  • 2565
    • TNL ได้มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยบริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเข้าร่วมมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
    • TNL ขยายขอบเขตของการประกอบธุรกิจไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี อันได้แก่ ธุรกิจให้สินเชื่อที่มีหลักประกัน ธุรกิจการบริหารจัดการสินทรัพย์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นการ กระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นเพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนทางการลุงทุนที่น่าพึงพอใจ และสามารถเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับบริษัท ในระยะยาว
    • TNL ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญ 90% ในบริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน จากบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
    • TNL ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญ 50% ในบริษัท 7 แห่ง ซึ่งประกอบธุรกิจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายประเภทที่อยู่อาศัย จากบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยู โกลบอล ฮอสพิทอลลิติ้ จำกัด